Android App Facebook

ใครไม่รู้จัก Facebook ยกมือขึ้น

ผม เชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดว่า ถ้าใครไม่รู้จัก Facebook คงเชยน่าดู แต่สำหรับผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้จัก Facebook เพราะคนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นชาวบ้าน โดยเฉพาะอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์ คนเหล่านี้เป็นคนส่วนใหญ่ของประเภท ดังนั้น น่าจะสรุปได้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้จัก Facebook (สรุปตามใจของผมเอง :)  เอาเรื่องของเราดีกว่า วันนี้จะมาแนะนำ Facebook สำหรับผู้ใช้งาน แอนดรอยด์ โดยเฉพาะ
Facebook สำหรับโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ โดยเฉพาะ

Facebook สำหรับ Android

สนใจ download Facebook สำหรับ Android ได้ที่ Android Market หรือ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :: Facebook Android App ::
ขนาดไฟล์ ขึ้นกับโทรศัพท์ที่ใช้ รองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการ Android 1.5 ขึ้นไป
กลุ่มประเภทโปรแกรม Social

วิธีตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบน Facebook

ถึงเพื่อนๆ ชาว Facebook ทุกคน คุณคงไม่อยากให้ใครบางคน ที่คุณไม่รู้จักสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ เช่น รูปภาพ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เป็นต้น  เรื่องนี้ทาง Facebook เข้าใจดี จึงได้มีการแบ่งระดับการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราไว้หลายระดับ เพื่อให้สมาชิก Facebook ทุกคนสามารถกำหนดได้ตามความพอใจ

วันนี้คุณได้มีการตรวจสอบระดับการเข้าถึงข้อมูลของคุณแล้วหรือยัง

กลุ่มในการกำหนดค่าความเป็นส่วนตัว

1. Everyone - ทุกๆ คน
2. Friends of Friends - เพื่อนของเพื่อนก็เข้าถึงได้
3. Friends only - เฉพาะเพื่อนเท่านั้นที่ดูได้
4. Customize - สามารถกำหนดได้ตามความต้องการของเรา

การกำหนดค่าความเป็นส่วนตัวบน Facebook

รายละเอียดของหน้าการกำหนดค่าความเป็นส่วนตัว

1. เปิดเข้าหน้า Facebook.com
2. คลิกหัวข้อ Account (บัญชีผู้ใช้) ด้านบน ขวามือ
3. เลือกหัวข้อ Privacy Settings (ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว)
4. ที่หน้าต่างใหม่ ให้คลิก Customize settings (ปรับปรุงการตั้งค่า) ด้านล่าง
5. จะเห็นรายละเอียดในกลุ่มข้อมูลต่างๆ และให้ช่องสี่เหลี่ยมด้านขวามือให้เลือกระดับการตั้งค่า
6. ลองปรับเปลี่ยนตามความต้องการ
7. อย่าลืมบันทึกหรือ Save ไว้ด้วย ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงค่าใดค่าหนึ่ง

แค่นี้คุณก็สามารถป้องกันข้อมูลจากบุคคลที่คุณไม่ต้องการได้แล้วครับ

ข้อความใน Facebook

เราสามารถนำข้อความของเพื่อนๆ คนอื่น มาแชร์ในหน้า Profile ของเราได้ เพื่อให้เพื่อนๆ ของเราสามารถแสดงความคิดเห็นหรือดูรายละเอียดได้ด้วย

Share เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างให้เว็บของเรา มีบทความ หรือข้อความที่น่าสนใจ และสามารถเพิ่ม Friends ได้อีกทางหนึ่ง :)

วิธีการ Share ข้อความจากเพื่อนอื่นๆ

1. เลือกเพื่อนที่ต้องการดึงข้อความ
2. คลิกคำว่า ?Share? ในหัวข้อที่เราต้องการ
3. จะปรากฏหน้าต่าง ?Post to Profile? ?ให้เรากรอกรายละเอียดที่ต้องการพูดถึงหัวข้อนี้
4. คลิกปุ่ม Share
5. จากนั้นข้อความนี้จะไปปรากฏที่หน้า Profile ของเราอัตโนมัติ

ทำการตลาดผ่าน Facebook Page

ทำความรู้จัก หน้า (Page) ของ Facebook

สำหรับ คนที่ใช้งาน Facebook มานาน คงรู้จัก Fans Page กันดีอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันใช้คำว่า Page แทน Fans Page สำหรับ Page ก็คือพื้นที่ที่ใช้สำหรับการโปรโมทตัวเอง หรือโปรโมทสินค้า และบริการของคุณ คุณสามารถสร้างหน้า Page ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (คล้ายๆกับการสร้างหน้าเว็บ) แต่ถ้าพูดถึงความแตกต่างกับหน้า Account ของเรา ก็ดูเหมือนว่าไม่แตกต่างมากนัก

สร้างหน้า Page เพื่อทำการตลาดผ่าน Facebook นั่นเอง

จุดเด่นของ Page คือมีปุ่ม Like

สิ่งที่หลายๆ คนหรือบริษัทที่สร้างหน้า Page ต้องการก็คือ Like ซึ่งจะทำให้เขาสามารถเข้าถึงทุกๆ คนที่ Like ได้ ประมาณว่า สามารถโปรโมทสินค้าและบริการได้ฟรีนั่นเอง สำหรับเรา ถ้าสนใจหน้า Page ของใคร ก็สามารถคลิก Like ได้ โดยไม่ต้องรอตอบรับการยืนยันจากเจ้าของ นี่คือจุดเด่นของ Page นั่นเอง

สร้างหน้า Page ไว้ทำอะไรดี

• อัพเดทข่าวสารของคนที่สนใจเรา
• เข้าถึงลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
• อัพเดทโปรโมชั่้น
• ทำกิจกรรม หรือเชิญชวนมาร่วมกิจกรรม
• ทำแบบสำรวจ หรือ โพล
• คูปองส่วนลด
• หารายได้จากการมีคน Like ในหน้า Page ของคุณเอง

ทิปที่คุณทราบก่อนการสร้างหน้า Page

คุณจำเป็นจะต้องมีบัญชีหรือการสร้าง Account กับ Facebook ก่อนเสมอ

ตัวอย่าง หน้า Page ของโรงแรมในกลุ่ม Chatrium


ข้อสังเกต คุณสามารถกลุ่มปุ่ม Like ได้ทันที  ทดสอบได้เพียงคลิกเข้าไปที่ http://www.facebook.com/Chatrium

คำศัพท์ สำหรับผู้ใช้งาน Facebook

วันนี้เราได้รวบรวมคำศัพท์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งาน Facebook จำเป็นต้องรับทราบ และเข้าใจก่อนการใช้งาน เพื่อให้การเล่น Facebook สะดวก สนุก และง่ายดายมากยิ่งขึ้น

คำศัพท์ Facebook

• Application
  • ส่วนที่ใช้สำหรับรวบรวม แอพพลิเคชั่น ที่คุณใช้หรือเลือกติดตั้งจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ
• Bookmarks
  • การเก็บแอพพลิเคชั่นที่เราชื่นชอบไว้ เพื่อให้สะดวกในการใช้งานภายหลัง
• Boxes
  • กล่องอัพเดทที่สร้างขึ้นไม่ว่าจะเป็น ลิงค์ รูปภาพ หรือข้อมูลที่คุณบันทึกไว้
• Chat
  • แชทออนไลน์ ผ่านทางหน้าเว็บ Facebook กับเพื่อนโดยเฉพาะ
• Event
  • ปฏิทินกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
• Find Friends
  • ค้นหาเพื่อน
• Forget Password
  • ลืมรหัสผ่านหรือพาสเวิร์ด
• Friends
  • ส่วนที่ใช้แสดงรายชื่อเพื่อน พร้อมทั้งเครื่องมือในการค้นหา จัดการ
• Gifts
  • ของขวัญในรูปแบบของภาพ หรือตัวการ์ตูน สำหรับส่งให้เพื่อน
• Groups
  • รายชื่อกลุ่มที่เราเป็นสมาชิก
• Home
  • หน้าแรก หลังจาก Login เข้าระบบ Facebook
• Inbox
  • ส่วนที่ใช้สำหรับการตรวจสอบเมล (แต่เป็นของ Facebook)
• Info
  • ข้อมูลประวัติของตัวเราเอง?ตัวอย่างเช่น วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
• Invite Friends
  • การเชิญชวนเพื่อนๆ มาร่วมเล่น Facebook
• Links
  • ลิงค์ของเว็บไซต์ที่เราสร้างขึ้น
• Login
  • เข้าใช้งาน
• Logout
  • ออกจากระบบ
• My Profile
  • ข้อมูลส่วนตัวของคุณ เรียกว่าเป็นห้องรับแขกใน Facebook ของคุณเลยทีเดียว
• Notes
  • บันทึกข้อมูลที่เราเขียนขึ้นมา หรือบทความที่ประทับใจ
• Page
  • หน้าเว็บเพื่อให้เพื่อนๆ เข้าร่วมเป็นแฟนคลับ เช่น ดารา นักร้อง นักกีฬา เป็นต้น
• Phonebook
  • สมุดโทรศัพท์ที่แสดงรายชื่อเพื่อน พร้อมเบอร์ติดต่อ
• Photos
  • ส่วนที่แสดงอัลบั้มรูปภาพของเรา เพื่อนสามารถเข้ามาดูและคอมเมนต์ได้ด้วย
• Poke
  • การสะกิดเพื่อน เพื่อทักทาย
• Recently Added
  • รายชื่อที่เพิ่งเข้าร่วมเป็นเพื่อนกับเรา
• Settings
  • ส่วนที่ใช้กำหนดรายละเอียดส่วนตัวของเรา สำหรับการตั้งค่าความปลอดภัย
• Social Networking
  • สังคมออนไลน์ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
• Suggestions
  • การเพิ่มเพื่อนจากคำแนะนำของ Facebook เอง
• Tag
  • การติดป้ายชื่อหรือการสร้างลิงค์จากรูปภาพ วีดีโอ โน้ต ไปยังหน้าที่เราต้องการ
• Video
  • แสดงวีดีโอที่เราอัพโหลดหรือถ่ายจากกล้อง Web Cam
• Wall
  • พื้นที่สำหรับการพูดคุย ทักทาย และแบ่งปันข้อมูลต่างๆ กับเพื่อน

วีธีการอัพโหลดรูปเข้า Facebook

เราสามารถอัพโหลดรูปภาพ และนำไปแสดงที่หน้า Facebook เพื่อเก็บเป็นที่ระลึก และจะให้แบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ดูกันได้ แถมยังสามารถให้เพื่อนๆ แนะนำให้คะแนนรูปภาพของเราได้อีกด้วย?การอัฟโหลดรูปภาพเข้า Facebook สามารถทำได้หลายช่องทาง ในหลายๆ หน้าของ Facebook แต่ถ้าหลักๆ ของเรา สามารถทำผ่านหน้าเมนู Profile ได้ดังนี้

วิธีอัพโหลดรูปภาพเข้า Facebook

1. คลิกเมนู Profile
2. ในแท็ป Wall บรรทัดของ "Attach" ให้คลิกปุ่ม Photos
3. จะเห็นหัวข้อให้เลือกอัพโหลดรูปภาพได้ 3 วิธี
   • Upload a Photo?- เป็นการอัพโหลดรูปภาพที่มีอยู่ในเครื่องคอมฯ ของเรา
   • Take a Photo - เป็นการอัพโหลดรูปภาพจาก กล้องเว็บแคมที่เชื่อมต่อไว้กับเครื่องคอมฯ (ถ้ามี)
   • Create a Album - เป็นการอัดโหลดรูปภาพในจำนวนมากๆ และเราต้องการจะสร้างโฟลเดอร์ในการจัดเก็บ หรือเพื่อการแบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น การสร้ากลุ่มของภาพที่เราไปท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด หรือแต่ละสถานที่ เป็นต้น
4. คลิกเลือกหัวข้อแรก Upload a Photo
   
   
   
5. คลิกเลือก Browse เพื่อหาภาพในเครื่องคอมฯ ของเรา
6. คลิกปุ่ม Share

สำหรับวิธีการอื่นๆ จะไม่แตกต่างกันมากนัก ให้ลองคลิกเข้าดูน่ะครับ ถ้าคุณไม่มีกล้อง Web Cam ติดทีเครื่องคอมฯ คุณจะไม่สามารถ upload โดยใช้หัวข้อ "Take a Photo" ได้ด้วย ส่วนหัวข้อ Create an Album แนะนำให้จัดกลุ่มรูปภาพเป็นหมวดหมู่ ก่อนการเข้าไปใช้งานหัวข้อนี้

วิธีต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือหลายรุ่น หลายยี่ห้อ สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้โดยตรง ผ่านทาง GPRS/EDEG/3G แต่ติดปัญหาในเรื่องของขนาดของหน้าจอ ที่อาจจะเล็กไปสำหรับผู้ใช้งานหลายๆ คน รวมทั้งผมด้วย อีกทั้งไม่สะดวกในการ download file โปรแกรม เพื่อนำมาใช้งานอื่นๆ อีกด้วย วันนี้ผมมีวิธีในการเชื่อมต่อมือถือ Nokia ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต มาเล่าสู่กันฟัง

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับโทรศัพท์มือถือ

• คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือ laptop
• โปรแกรม Nokia PC Suite
• โทรศัพท์ Nokia พร้อม USB Cable

วิธีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์

1. ติดตั้งโปรแกรม Nokia PC Suite (ทำตามหน้าจอไปเรื่อยๆ)
2. ต่อสาย USB Cable ด้านหนึ่งกับโทรศัพท์ อีกด้านต่อเข้ากับ USB Port ของคอมพิวเตอร์
3. ที่หน้าจอมือถือ จะแสดงข้อความว่าจะเชื่อมต่อแบบใด? (PC Suite, Printing & media, Data Strage) ให้เราเลือก PC Suite
4. ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ในส่วนของโปรแกรม Nokia PC Suite ให้คลิกเลือกไอคอน Connect to the Internet ดังภาพประกอบ

5. จะมีหน้าต่างแสดง One Touch Access และโปรแกรมจะเชื่อมต่อให้ทันที
6. ถ้าต้องการยกเลิกให้คลิกปุ่ม Disconnect

7. หลังจากเชื่อมต่อได้แล้ว จะมีไอคอนเล็กๆ แสดงการเชื่อมต่ออยู่บริเวณ Taskbar ขวามือด้านล่าง
8. ทดสอบเข้าโปแกรม Browser ที่คุณใช้งาน หรือลองเช็คอีเมล์ดูครับผม

ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

• สามารถเชื่อมต่อผ่าน BlueTooth แทนสาย USB ได้เช่นเดียวกัน
• ข้อความระวังเรื่องค่าใช้จ่ายของการเชื่อมต่อผ่านน GRPS/EDGE/3G ควรสอบถามกับบริษัทที่เราใช้บริการก่อนน่ะครับ จะได้ไม่มากลุ้มใจในภายหลัง

Facebook บน iPhone

สำหรับผู้ใช้งาน Facebook และมีโทรศัพท์มือถือ iPhone วันนี้คุณสามารถเชื่อมต่อ Facebook เข้ากับ iPhone ได้แล้วครับ เพียงแค่ download และติดตั้งผ่านโปรแกรม iTune เท่านั้น คุณก็จะไม่พลาดข้อมูลข่าวสารอัปเดทจาก Facebook ของคุณแล้ว (การใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือต่างยี่ห้อกัน อาจมีความแตกต่างกันไปบ้าง)

การใช้งาน Facebook บน iPhone

หลังจาก download Facebook และติดตั้งแล้ว เราสามารถใช้งาน Facebook ได้ทันที แต่ต้องมีการ login เหมือนการใช้งานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เสียก่อน หลังจากนั้น เราจึงจะสามารถใช้งาน Facebook บน iPhone ได้ปกติ? สำหรับหน้าตาของ Facebook บน iPhone ดูได้จากภาพประกอบด้านบน

คำสั่งต่างๆ Facebook บน iPhone

• Home - หน้าแรก ที่รวมคำสั่งต่างๆ ของ Facebook
• Profiles - แสดงผลข้อมูลอัปเดทของคุณ
• Friends - แสดงรายชื่อ หรือต้องการค้นหาเพื่อนๆ
• Inbox - แสดงรายการข้อความในอีเมล์ ทั้งขาเข้าและขาออก
• Chat - แชทนี้เป็นของ Facebook น่ะครับ อย่าเข้าใจผิด
• Request - การร้องขอเป็นเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ ใน Facebook
• Events - จะแสดงรายละเอียด 2 อย่างคือ Events ซึ่งแสดงรายละเอียดของกิจกรรม และ Birthdays แสดงวันเกิดของเพื่อนๆ
• Photos - สำหรับอัปโหลดรูปภาพลง Facebook ในหน้า Wall
• Notes - ดูโน๊ตที่เคยเขียน หรือต้องการสร้างโน๊ตใหม่

คงถูกใจเพื่อนๆ?ชาวไอโฟนทุกท่าน ใช่หรือเปล่าครับ

การยกเลิกการใช้งาน Facebook

สำหรับหลายๆ คนที่ใช้งาน Facebook และไม่อยากใช้งาน Facebook อีกต่อไป จะด้วยเหตุผลต่างๆ ใดๆ ก็ตามหรือไม่สะดวกในการใช้งานอินเตอร์เน็ต อยากแนะนำให้เราทำการยกเลิกสมาชิก Facebook ด้วย เพราะไม่งั้น จะให้การค้นหาชื่อของเรายังคงอยู่ เพื่อนๆ ที่เราติดต่อด้วยก็จะสับสน เพราะไม่สามารถติดต่อเราได้

ขั้นตอนการยกเลิกการใช้งาน Facebook

1. ให้ทำการ Login เข้าเว็บไซต์ Facebook แบบปกติ
2. ให้คลิกหัวข้อ Settings
3. ในแท็ป Setting ให้คลิกหัวข้อด้านล่าง "Deactivate Account"
4. เลือกเหตุผลที่เราไม่ต้องการใช้งาน Facebook
5. จะมีช่องให้ใส่เหตุผลเพิ่มเติมด้วย
6. คลิกปุ่ม "Deactivate My Account" เพื่อยืนยัน

วิธีสมัครเป็นสมาชิก Facebook

สำหรับผู้สนใจ จะใช้งาน Facebook ก็เพียงแค่มี E-mail address เท่านั้น คุณก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้แล้ว แต่ถ้ายังไม่มีก็แนะนำให้รีบไปสมัครใช้บริการฟรีอีเมลต่างๆ เช่น Gmail.com, Hotmail.com, Yahoo.com เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่อยากแนะนำให้ใช้อีเมลของบริษัท เพราะเวลาเราย้ายงาน จะทำให้อีเมล์นั้นถูกยกเลิกไป และที่สำคัญอีกอย่าง นี่เป็นเรืองส่วนตัวๆ ไม่ใช่เรื่องงาน

ขั้นตอนการลงทะเบียนหรือสมัครใช้บริการ Facebook

1. คลิกเข้าไปที่ www.facebook.com
2. กรอกรายละเอียดในหน้าแรก เพื่อสมัครสมาชิก (แนะนำให้กรอกข้อมูลตามความเป็นจริง และโดยเฉพาะ E-mail เพราจะต้องมีการยืนยันการใช้งานผ่าน E-amil ด้วย)
3. กดปุ่ม "ลงทะเบียน" ถ้าเป็นภาษาอักกฤษคือ "Sign Up"
4. ทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่หน้าจอ ซึ่งจะมีข้อมูลให้กรอกชื่อของโรงเรียน การอัปโหลดรูปภาพ เป็นต้น
5. หลังจากนั้น ระบบจะทำการส่ง E-mail ไปให้คุณตามที่ได้กรอกในขั้นตอนสมัคร และให้คุณเปิดและคลิกลิงค์ ยืนยันการรับ E-mail ด้วย (ถ้าไม่ได้รับ mail ใน Inbox ให้ลองตรวจสอบในโฟลเดอร์ JunkMail ด้วย
6. ภายใน E-mail จะมี ลิงค์ให้เรากดเพื่อยืนยันการใช้งาน
7. แค่นี้ก็เป็นอัน เสร็จสิ้นในขั้นตอนการสมัครใช้บริการแล้ว

จากนั้นคุณก็สามารถเข้าไปใช้บริการของ Facebook ได้แล้ว ยินดีกับสมาชิกใหม่ครับ

คำสั่งต่างๆ บน Facebook

เพื่อให้เรียนรู้การใช้งาน Facebook ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เรามาทำความรู้จักคำสั่งต่างๆ ภายใน Facebook กันก่อนมามีอะไรบ้าง

แถบคำสั่งบน Facebook ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ

• แถบคำสั่งด้านบน
• แถบคำสั่งด้านล่าง

แถบคำสั่งด้านบน ประกอบด้วยคำสั่ง

• Home - หน้าแรกของ Facebook ซึ่งเป็นที่รวบรวมข้อมูลอัปเดทต่างๆ ของเพื่อนๆ ของเรา รวมทั้งแสดงรายชื่อบุคคลทีขอเป็นเพื่อนอีกด้วย
• Profile - ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวของเรา
• Friends - ข้อมูลของเพื่อนๆ รวมทั้งคำสั่งต่างๆ ในการค้นหาเพื่อนๆ? รวมทั้งเครื่องมือในการเชิญเพือนๆ มาเล่น Facebook ด้วยกัน
• Inbox - หน้าอีเมลที่ใช้ของ Facebook ไม่ใส่ E-mail ส่วนตัวของเราที่ใช้สมัคร Facebook
• ชื่อผู้ใช้งาน - แสดงรายชื่อของคุณ
• Settings - สำหรับตั้งค่าต่างๆ ในการแสดงหรือไม่แสดงข้อมูลส่วนตัวของเรา พร้อมวิธีการในการกำหนด Security ของ Facebook
• Logout - ออกจากระบบ Facebook ทุกครั้งที่เลิกใช้งาน จะต้องกดปุ่มนี้เสมอ
• Search กล่องค้นหา- สำหรับค้นหาข้อมูลภายใน Facebook

แถบคำสั่งด้านล่าง (แถบคำสั่งแอพพลิเคชั่น หรือโปรแกรม)

• แอพพลิเคชั่น - รวมโปรแกรมการใช้งานต่างๆ หรือใช้สำหรับเพิ่มเติมแอพพลิเคชั่นที่ต้องการ
• Photos - สำหรับการอัพโหลดรูปภาพ สร้างอัลบั้ม (คำสั่งนี้จะมีอยู่ในหลายๆ ส่วนของ Facebook เช่นกัน)
• Video - รายการวีดีโอที่เพื่อนๆ เพิ่มเข้ามา
• Groups - กลุ่มของรายชื่อเพื่อนๆ
• Events - อัพเดทกิจกรรมต่างๆ? พร้อมข้อมูลวันเกิด
• Notes - ข้อมูลต่างๆ ที่เราเขียนไดอารี่ หรือจากการดึงข้อมูลจากที่อื่นๆ เข้ามา เช่น จาก Blog อื่นๆ เป็นต้น
• Links - รวมลิงค์ที่ของเราและของเพื่อนๆ
• Chat - เหมือนกับการแชทออนไลน์ทั่วไป แต่นี้เป็นของ Facebook เอง
• Notifications - การแจ้งเตือน รวมทั้งข้อมูลอัพเดทต่างๆ ของคุณและเพื่อนๆ

Excel 2007 Themes

นอกเหนือจากการสร้างและตกแต่งตารางด้วย "Format as Table" แล้ว Excel 2007 ยังไม่เตรียมเครืองมือในการปรับแต่งตาราง สีสรร รูปแบบตัวอักษรให้ด้วย เราเรียกเครื่องมือเหล่านี้ว่า "Themes"

Theme คืออะไร

Theme เป็นคำสั่งที่อยู่ภายใต้แท็ป "Page Layout" ซึ่งรูปแบบของ Theme สามารถเลือกจากคอมพิวเตอร์ของเราได้โดยตรง หรือถ้าต้องการรูปแบบเพิ่มเติม สามารถเข้าไป download ออนไลน์โดยตรงได้จากเว็บไซต์ Microsoft http://office.microsoft.com/en-us/templates/CT101043291033.aspx?ofcresset=1

วิธีเลือกตกแต่งเอกสารด้วย Themes

1. สร้างเอกสารตารางด้วย Excel 2007
2. คลิกเลือกคลุมเอกสาร
3. จากนั้นตกแต่งเอกสารด้วย "Format as Table" ก่อน ดูวิธีทำได้ที่นี่
4. จากนั้นถ้าต้องการเปลี่ยนรูปแบบใหม่ หรือ "Themes"
5. ให้คลิกแท็ปเมนู Page Layout
6. ที่ด้านหน้าคำสั่ง ให้คลิกเลือก Themes จะเห็นรูปแบบสำเร็จรูปให้เลือก

7. คลิกเลือกรูปแบบใดๆ ก็ได้ตามต้องการ

ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงสีสรร หรือตัวอักษร เราสามารถคลิกเลือก คำสั่ง Fonts หรือ Colors ทางด้านขวามือของคำสั่ง Themes ได้ตามต้องการอีกด้วย

หาคำสั่งเก่าๆ Excel 2003 ใน Excel 2007

อีกหนึ่งความช่วยเหลือจาก Microsoft.. ถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่เริ่มต้นการใช้งาน Microsoft Excel 2007 (เปลียนจาก Microsoft Excel 2003) คงประสบปัญหาการหาคำสั่งเก่าๆ ใน Excel ไม่เจอ ทำให้หงุดหงิดรำคาญใจ พาลจะทำให้ไม่ชอบ Microsoft?Excel 2007 ไปเลย แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะวันนี้ ผมมีวิธีที่จะทำให้คุณสามารถใช้งาน Excel 2003 และสามารถหาคำสั่งต่างๆ ใน Excel ได้ทุกคำสั่ง

เปรียบเทียบ Excel 2003 กับ Excel 2007 คำสั่งต่อคำสั่ง

เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยการใช้โปรแกรม? Microsoft?Excel 2007 ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น บริษัท Microsoft ได้ทำการ mapping คำสั่งต่อคำสั่งของ Microsoft?Excel ระหว่าง 2003 กับ 2007 ให้ ซึ่งเราสามารถ download ได้จากลิงค์

• Excel ribbon mapping workbook?ไฟล์ที่ได้เป็นไฟล์ Excxel ขนาดไฟล์?747 KB
• หรือถ้าไม่อยากจะมานั่งอ่าน สามารถดูในลักษณะภาพเคลื่อนไหว (Flash File) ได้โดยคลิกที่??Excel 2003?compare with 2007? (สำหรับการใช้งาน ให้คลิกเลือกคำสั่งใน?Excel??2003 โปรแกรมก็จะแสดงให้เห็นว่า คำสั่งใน?Excel 2007 อยู่ตรงไหน.. ใช้งานง่ายมาก..

คราวนี้ คุณก็ไม่ต้องปวดหัวกับการหาคำสั่งต่างๆ ใน Microsoft?Excel??2007 แล้ว แค่แล้วคุณชอบ Microsoft Excel 2007 เช่นเดียวกับผม

ตกแต่งตารางแบบฉับพลันใน Excel 2007

จุดเด่นของ Microsoft Excel ก็คือตาราง ดังนั้น หลังจากการบันทึกข้อมูลเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการตกแต่งตารางให้ดูสวยงาม ซึ่งดูจะเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย เพราะจะทำให้เอกสารของเราดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

เครื่องมือสำเร็จรูปในการตกแต่งตาราง

Microsoft Excel 2007 ได้เตรียมรูปแบบของการตกแต่งตารางไว้มากมาย ที่เรียกว่า "Format as Table" เราสามารถคลิกเลือกเพื่อตกแต่ง sheet ของเราได้อัตโนมัติ ?เพียงคลิกเดียว

วิธีตกแต่งตารางด้วยรูปแบบสำเร็จรูป

1. เปิดเอกสาร Excel
2. บันทึกข้อมูลลงตาราง
3. คลุมข้อมูลที่ต้องการตกแต่ง
4. ที่แท็ป Home
5. เลือก Format as Table
6. เลือกรูปแบบที่ต้องการ

จัดเรียงข้อมูลใน Word 2007

Sorting data in Microsoft Word 2007

?
โดยปกติ การจัดเรียงข้อมูล (Sort) มักจะใช้ในโปรแกรม Microsoft Excel และน้อยคนนักจะใช้การจัดเรียงข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Microsoft Word แน่นอนครับ เอกสารบางอย่างอาจไม่เหมาะจะใช้ Excel ในการทำงาน ดังนั้น เราควรศึกษาวิธีการจัดเรียงในโปรแกรม Microsoft Word ด้วยเช่นกัน

วิธีการจัดเรียงข้อมูลใน Microsoft Word 2007

1. บันทึกข้อมูลใน Microsoft Word 2007 โดยแยกแต่ละประโยค (ให้กดปุ่ม Enter หลังจากหมดประโยค)
2. หลังจากบันทึกตามจำนวนประโยคที่ต้องการจัดเรียงแล้ว ให้คลิกเมนู Home
3. เลือกหัวข้อ Sort (สัญลักษณ์ A-Z)
4. จากนั้น จะมีหน้าต่างชื่อ Sort Text

5. มีตัวเลือกย่อยให้เลือกว่าจะเรียงจากน้อยมาหามาก (A-Z) หรือ มากไปหาน้อย (Z-A)
6. คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยัน

วิธีใส่ลายน้ำใน Word 2007

ป้องกันเอกสารลิขสิทธิ์ด้วย Watermark

สำหรับเอกสารหรืองานที่เราต้องการป้องกันการทำซ้ำ หรือ copy ไปใช้ในงานอื่นๆ เราสามารถปกป้องงานขอเราได้ โดยการใส่ลายน้ำ หรือภาษาอังกฤษ เรียก "Watermark" ซึ่งจะฝังลงในเอกสารของเราแบบอัตโนมัติในทุกๆ หน้า watermark สามารถใส่ภาษาไทยได้ด้วย

วิธีใส่ลายน้ำใน Microsoft Word 2007

1. เปิดงานเอกสารด้วย Microsoft Word 2007
2. คลิกเมนูด้านบน "Page Layout"
3. คลิกไอคอน "Watermark"
4. จากนั้นจะมีตัวอย่าง Watermark ให้เลือก

5. แต่ถ้าต้องสร้าง Watermark เอง ให้คลิกหัวข้อ "Custom Watermark"
6. คลิกหัวข้อ Text watermark
7. ในช่อง "Text" ให้พิมพ์ข้อความที่ต้องการ

8. จากนั้นคลิกปุ่ม Apply และ OK ตามลำดับ

สร้างเอกสาร Word แบบมืออาชีพ

Word 2007 Templates คืออะไร

Templates คือรูปแบบสำเร็จรูป ที่เราสามารถนำมาใช้งานได้ทันที โดยการสร้างเป็นแบบฟอร์ม ที่เราสามารถนำข้อมูลของเรามาเปลี่ยนจากฟอร์มที่มีให้ ทำให้เราสามารถสร้างงานเอกสาร word แบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม Templates ที่ให้มา อาจไม่อาจนัก ทาง Microsoft เองก็ได้เตรียม Templates แบบ Online ให้เราเลือก download มาใช้งานได้ฟรี ๆ และมีการแบ่งประเภทต่างๆ ให้มากมาย ดังตัวอย่างนี้

Word Template ประเภทต่างๆ

Agendas Award certificates Brochures Budgets Business Cards Calendars Contracts Diagrams Envelopes Expense reports

Faxes Forms Gift certificates Greeting Cards Inventories Invitations Invocies Lables and etc.?

การเลือกใช้งาน Templates

ถ้าเราเลือกใช้งาน Templates จากหัวข้อ "Installed Templates" เราสามารถเลือกใช้งานได้ทันที แต่ถ้าเราใช้งาน Templates จาก Microsoft Office Online เราจำเป็นจะต้องต่ออินเตอร์เน็ตและ download มาก่อนเริ่มต้นใช้งาน

วิธีใช้งาน Microsoft Word Templates

1. เปิดโปรแกรม Microsoft Word 2007
2. คลิกปุ่ม "Office Button" มุมบนซ้ายสุด
3. คลิกไอคอน New
4. คลิก Installed Templates
5. รอสักครู่ จะได้ตัวอย่างด้านขวามือให้เลือก
6. คลิกเลือก template ที่ต้องการ
7. จากนั้นพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการ ทับเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเป็นของเรา

ทำความรู้จัก Microsoft Word 2007

โปรแกรมสำหรับพิมพ์งานเอกสารที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกตัวหนึ่ง จากบริษัท Microsoft ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตโปรแกรมต่างๆ มากมาย อาจสืบเนื่องมาจากความนิยมในการใช้งานโปรแกรม Windows ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่เราใช้งานกันในทุกๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ (เกือบทั้งโลก) ดังนั้นจึงทำให้ Microsoft Word เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่เราใช้งานกันอยู่เป็นมาตราฐานเช่นเดียวกัน

Microsoft Word เป็นหนึ่งโปรแกรมของโปรแกรม Suite (รวมมิตร) ซึ่งประกอบด้วยโปรแกรมหลักๆ คือ

• Microsoft Word - งานเอกสาร
• Microsoft Excel - งานตาราง คำนวณ
• Microsoft PowerPoint - งานนำเสนอข้อมูล
• Microsoft Access - งานระบบฐานข้อมูล

การทำงานของทุกๆ โปรแกรมในตระกูล Microsoft Office สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างง่ายดาย ทำให้เรานิยมซื้อและใช้งานโปรแกรมทั้งหมดในตระกูล Microsoft Office

หน้าตาใหม่ของ Microsoft Word 2007

เดิมการพัฒนาของ Microsoft ที่เกี่ยวเนื่องกับ Microsoft Office จะไม่มีความแตกต่างมากนัก โดยมักเน้นพัฒนาในเรื่องของความสามารถ (Features) ของโปรแกรมให้มากขึ้น ใช้งานสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก แต่ต่อมา นับตั้งแต่ Microsoft Office 2007 พัฒนาขึ้นมา และเริ่มใช้งาน จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะหน้าตาและไอคอนต่างๆ ที่เราใช้งานกัน เปลี่ยนหมด !

เรื่องน่ารู้ของ Microsoft Office 2007

1. เมนูและไอคอน หาย เปลี่ยนเป็น Ribbon แทน
2. ไฟล์ที่บันทึก (Save) เดิมมีนามสกุล .DOC ของใหม่เปลี่ยนเป็น .DOCX
3. การปรับแต่งโปรแกรมจากเมนู Options ถูกย้ายมาสู่ Office Button แล้ว ให้คลิกเลือก จะอยู่มุมขวาล่าง "Word Options"
4. เราสามารถปรับเปลี่ยนการบันทึกไฟล์จาก .DOCX เป็น .DOC ได้ เพื่อแก้ปัญหาคนอื่น ไม่สามารถเปิดดูได้โดยการเข้าไปที่ "Word Options" เลือกหัวข้อ "Save" จากนั้น ให้เลือก "Save files in this format" ให้เลือกเป็น "Word 97-2003 Document"
5. ถ้าต้องการบันทึก ให้คลิกไอคอนวงกลมด้านบนซ้ายสุด (Office Button) จะมีเมนูให้เลือก Save

เมาส์

ลักษณะของจอภาพ (Monitor)

          จอภาพเป็นอุปกรณ์แสดงผลที่มีชื่อเรียกมากมาย เช่น Monitor, CRT

(Cathode Ray Tube) ปกติแล้วจอภาพสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท

 

1. จอภาพสีเดียว (Monochrome Monitor)

          จอภาพที่รับสัญญาณจากการ์ดควบคุม ในลักษณะของสัญญาณดิจิตอล

คือ 0 กับ 1 โดยการกวาดลำอิเล็กตรอนไปตกหน้าจอ แล้วเกิดเป็นจุดเรืองแสง

จะให้สัญญาณว่าจุดไหนสว่าง จุดไหนดับ จอภาพสีเดียวเวลานี้ไม่มีผู้นิยมแล้ว

 

2. จอภาพหลายสี (Color Monitor)

          จอภาพที่รับสัญญาณดิจิตอล 4 สัญญาณ คือ สัญญาณของสีแดง, เขียว,

น้ำเงิน และสัญญาณความสว่าง ทำให้สามารถแสดงสีได้ 16 สี ถึง 16 ล้านสี

แป้นพิมพ์

 

ลักษณะของแป้นพิมพ์

          คีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเบื้องต้น มีลักษณะการทำงาน

คล้ายแป้นพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ดีด แต่ได้เพิ่มปุ่มควบคุมเฉพาะสำหรับ

คอมพิวเตอร์

 

การทำงานของแป้นพิมพ์

          การเปลี่ยนกลไลการกดปุ่ม ให้เป็นสัญญาณทางไฟฟ้า เพื่อส่งให้คอมพิวเตอร์

โดยสัญญาณดังกล่าว จะบอกให้คอมพิวเตอร์ทราบว่ามีการกดคีย์อะไร